เปิดเมืองอำนาจเจริญ พลิกโฉมใหม่กับ5อำนาจแห่งเดียวในประเทศไทย อำนาจเจริญ ต้องห้าม…พลาด

นายทวีป บุตรโพธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ นำทีมหัวหน้าส่วนราชการและผู้ประกอบการจังหวัดอำนาจเจริญ ต้อนรับคณะนักท่องเที่ยว VIP สื่อมวลชน นำร่องเปิดเมืองอำนาจเจริญ โดยความร่วมมือระหว่าง ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดย นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคอีสาน และ สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) โดย นายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.)

ในโอกาสที่นำคณะนักท่องเที่ยวทั่วประเทศคณะแรกกว่า 80 คนเดินทางมาท่องเที่ยวในภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะในพื้นที่กลุ่มจังหวัดโขงชีมูล (อำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี)

นายธงชัย แสนทวีสุข ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุบลราชธานี เปิดเผยว่า จากการที่ ททท.ได้มีแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดโขงชีมูล หรือ 3:4:5 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากสถานการณ์ COVID โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในพื้นที่ให้กลับมามีความคึกคัก พร้อมกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนในพื้นที่ตามนโยบายของรัฐบาลนั้น

โดยจังหวัดอำนาจเจริญ ททท.สำนักงานอุบลราชธานี ได้ชูจุดขายคือ เมืองแห่งพลัง 5 อำนาจ  นักท่องเที่ยวต้องไปเที่ยวพิสูจน์และค้นหา ท่านใดที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ ทั้งด้านธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม โบราณสถาน กิจกรรมภายในชุมชน และอาหารถิ่นอันหลากหลาย

ท่านจะมีอำนาจ โชคลาภวาสนา มีบารมีสูงส่ง มีความก้าวหน้ามั่นคง และมีความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งผลจากการประชาสัมพันธ์ดังกล่าว สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) ได้กรุณานำเสนอขายแพคเกจ นำนักท่องเที่ยวนำร่องจากทั่วประเทศกว่า 80 คน เดินทางมาโดยรถไฟ ระหว่างวันที่ 12-14 พฤศจิกายน 2564

เข้ามาเยี่ยมเยือนชมวิถีวัฒนธรรมของชาวภูไท บ้านคำเดือย อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ และจับจ่ายซื้อสินค้าจากชุมชนในทริปนี้ทำให้สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท

“นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดโขงชีมูล เพียงท่านได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม และแสดงหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ หรือจะเลือกใช้วิถีผลการตรวจ ATK ก็ได้ แสดงผลไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก็สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องกักตัว และสามารถเข้าใช้บริการสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) ได้เลย” ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานอุบลราชธานี กล่าวเพิ่มเติม