ททท. จับมือ แอร์เอเชีย เปิดตัวแคมเปญ” เมืองรองต้องไป” พร้อมมอบส่วนลดพิเศษทุกเส้นทางบินสู่เมืองรอง

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ สายการบินแอร์เอเชีย แถลงข่าวเปิดตัวโครงการเมืองรองต้องลอง ภายใต้แคมเปญ เมืองรองต้องไป ประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวเมืองรองและมอบส่วนลดพิเศษทุกเส้นทางบินเมืองรอง ตอกย้ำการเดินทางสู่เมืองรองอย่างมั่นใจ เดินทางได้ตลอดปี

นายกฤษณะ แก้วธำรงค์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ  ททท. กล่าวถึง การส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง ว่า ททท. ดำเนินการมาตลอดตั้งแต่ปี 2558 โดยมีการขยายพื้นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองทั้ง 55 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นและกระจายนักท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองรอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ การท่องเที่ยวยุคใหม่

กฤษณะ แก้วธำรงค์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท.

ททท. มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศแบบ New Normal และตอบโจทย์พฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว Gen Y และกลุ่มวัยทำงานที่มีไลฟ์สไตล์ ที่ชื่นชอบและแสวงหารูปแบบการท่องเที่ยวแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร สำหรับบริการเส้นทางภายในประเทศ ไปยังเมืองรอง แอร์เอเชียบินสู่ 15 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย,น่าน,พิษณุโลก,นครศรีธรรมราช,ตรัง,ระนอง,ชุมพร,นราธิวาส,อุดรธานี,อุบลราชธานี,ร้อยเอ็ด,นครพนม,บุรีรัมย์ และเลย

โดยคิดเป็น 20 เส้นทาง ซึ่งทุกจังหวัด ล้วนเป็นเมืองที่มีความโดดเด่นและพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว แคมเปญ “เมืองรองต้องไป” แอร์เอเชีย ร่วมกับ ททท.จัดทำภาพยนตร์โฆษณาชื่อชุด “เมืองมีสไตล์ทริปเดียว เที่ยวควบได้” พร้อมจัดโปรโมชั่นราคาบัตรโดยสารสู่เส้นทางเมืองรอง เริ่มต้นที่ 599 บาทต่อเที่ยว จองได้ตั้งแต่วันที่ 12-18 เมษายนนี้ เพื่อใช้เดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน-30 กันยายนนี้รวมถึงโปรโมชั่นสุดพิเศษที่พักและโรงแรม ในราคาเริ่มต้น 1,388 บาท สอบถามเพิ่มเติมที่ 1672 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ www.airasia.com

อย่างไรก็ตาม ททท.ยังได้กระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรองทั้ง 55 จังหวัดทั่วประเทศ ผ่านโครงการ lifestyles Trave ซึ่งได้ร่วมกับ ททท.ทั้ง 5 ภูมิภาค เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง ช่วยกระจายไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยว เนื่องจากแต่ละภูมิภาคมีเดสติเนชั่นของแต่ละชุมชน เพราะแต่ละหมู่บ้านที่มีงานหัตถกรรมที่แตกต่างกัน

ดังนั้นการเดินทางท่องเที่ยวสมัยนี้ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน บางคนมีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการท่องเที่ยวทะเลก็จะไปภาคตะวันออกหรือภาคใต้ ทางททท.ภูมิภาคภาคใต้ ก็จะนำเสนอแพคเกจต่างๆให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยว หรือจะขึ้นเหนือไปแค้มปิ้งในชุมชน บนยอดดอย ซึ่งกระแสกำลังแรง ศิลปะวัฒนธรรม วัดวาอาราม นอกจากนี้ยัง มีทะเลหมอก น้ำตกก็ยังสวย อาหารอร่อย หรือการไปขี่จักรยาน ไปวิ่ง หรือภาคตะวันออกก็กำลังมีผลไม้ออกตลาด ดังนั้น ททท.จึงแบ่งเป็นไลฟ์สไตล์ออกเป็น 5 ภาค ซึ่งแน่นอนจะช่วยเหลือและสร้างรายได้ให้กับชุมชนเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นแห่งวัตถุดิบ ชุมชน ร้านอาหาร เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากไปทั่วประเทศ

“ขณะเดียวกันการจัดงานมหาสงกรานต์ 2564 ก็ยังได้มีการดำเนินงานจัดงานต่อไป แต่ทั้งนี้ การจัดงานต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิ เว้นระยะห่าง โดยขึ้นอยู่กับจังหวัดที่มีการจัดงานสงกรานต์ ทั้งนี้ ททท. ได้มีการหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถ้าหากดูแล้วว่ายังสามารถดำเนินงานต่อได้ก็ให้ดำเนินต่อไป ซึ่งในหลายพื้นที่ก็มีการลดขนาดควบคุมการจัดงานให้รัดกุม หรือจัดตามนโยบายภาครัฐให้จัดงานสงกรานต์ได้แต่ไม่มีการสาดน้ำ โดยให้เน้นการจัดงานแบบวิถีความดั้งเดิมของไทย คือการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ขอพรผู้ใหญ่” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ กล่าวทิ้งท้าย