“วอลโว่” จ้องทุบหม้อข้าวโอเปคดัดหลังน้ำมันเเพง เปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าปีละ 1-2 รุ่น

วอลโว่คาร์ ประเทศไทย เปิดเผนปี 65 เตรียมเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ C40 ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ 2022 เผยพร้อมส่งยานยนต์ไฟฟ้าปีละ1-2 รุ่นทุกปี ยันเลิกจำหน่ายรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบเครื่องยนต์สันดาปทั้งหมด มุ่งขายปลั๊กอินไฮบริด (Plug in Hybrid) และรถยนต์ไฟฟ้า 100% (Pure Electric) เท่านั้น

 

มร.คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า วอลโว่ ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งหน้าสู่การสร้างความยั่งยืนในระยะยาวตั้งแต่ปี 2018 ที่ผ่านมา และถึงแม้ว่าเราต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์เพื่อส่งมอบรถยนต์ที่ลูกค้าต้องการ วอลโว่ยังคงเดินหน้าเพื่อส่งมอบรถยนต์ระดับพรีเมียมที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุด ที่ผ่านมาวอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) ถือเป็นแบรนด์รถยนต์พรีเมียมแบรนด์เดียวเท่านั้นที่มีพันธกิจในการจัดจำหน่ายรถยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริด (Plug in Hybrid) และรถยนต์ไฟฟ้า 100% (Pure Electric) เท่านั้น โดยวอลโว่ ยกเลิกการจำหน่ายรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบเครื่องยนต์สันดาปทั้งหมด และเราจะยังคงเดินหน้าขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2565 ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ในปีนี้ ตลอดจนการมุ่งเน้นการจำหน่ายรถยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริดต่อไป

“ปี 2565 เรามุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเราจะมีการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% (Pure Electric) รุ่น C40 ในช่วงไตรมาสที่ 1 หรือในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ 2022 และวอลโว่ยังตั้งเป้าหมายในการจำหน่ายรถยนต์วอลโว่ที่เป็นระบบไฟฟ้าแบบ 100%ในประเทศไทย ในสัดส่วนที่มากกว่า 30% ของยอดขายทั้งหมดในปีนี้ นอกจากนี้วอลโว่ ยังคงมุ่งมั่นที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่างน้อย 1-2 รุ่นในทุก ๆ ปีต่อไป เพื่อส่งเสริมพันธกิจหลักของวอลโว่ คาร์ ทั่วโลกในการส่งมอบรถยนต์ระดับพรีเมียมที่มีสมรรถนะสูง พร้อมตอบโจทย์แก่ทุกไลฟสไตล์ให้แก่ผู้ขับขี่ทุกคน ตลอดจนเพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคมได้ในระยะยาว” มร.คริส เวลส์ กล่าว


มร.คริส เวลส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกภาคส่วนนั้นได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยที่วอลโว่มุ่งเน้นไปที่ความเป็นอยู่และสุขภาพที่ดีของลูกค้าและพนักงานของเป็นหลัก โดยบริษัทมีการยกระดับมาตรการความปลอดภัย พร้อมผสานมาตรการด้านสุขอนามัยขั้นสูง เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าในโชว์รูมและศูนย์บริการ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับรถยนต์ที่สะอาดปลอดภัยทั้งการส่งมอบรถยนต์คันใหม่และรถยนต์ที่มาใช้บริการซ่อมบำรุง
“วอลโว่ถือเป็นแบรนด์รถยนต์ระดับพรีเมียมเพียงแบรนด์เดียวที่นำเสนอและจำหน่ายรถยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริด (Plug in Hybrid) และรถยนต์ไฟฟ้า 100% (Pure Electric) แต่เพียงเท่านั้น โดยวอลโว่ได้ตัดสินใจยุติการจำหน่ายรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปโดยสิ้นเชิงตั้งแต่ปี 2562 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ เรายังมีการมอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้ามากมาย เพื่อแทนคำขอบคุณและเป็นการอำนวยความสะดวกสบายต่อการขับขี่ให้แก่ลูกค้าของเรา อาทิ การส่งมอบเครื่องชาร์จไฟ (Wall Box EV Charger) แบบติดผนัง พร้อมบริการติดตั้ง และ ตรวจสภาพระบบไฟฟ้าในที่พักอาศัยหรือที่ทำงานให้แก่ผู้ซื้อรถยนต์วอลโว่ หรือการส่งมอบบริการหลังการขายทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเสริมสร้างความอุ่นใจให้แก่ลูกค้าในทุกการเดินทาง”


นอกจากนี้ วอลโว่ยังคงคำนึงถึงเรื่องปัญหาทางด้านสภาพภูมิอากาศเป็นอย่างมาก ซึ่งปัญหาดังกล่าวถือเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลกมาอย่างยาวนาน และรู้ว่ารถยนต์เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างปัญหาเหล่านี้ ทั้งนี้ด้วยพันธกิจหลักในการส่งเสริมสภาพแวดล้อมและการสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคม เราจึงเดินหน้าสร้างโซลูชันต่าง ๆ เพื่อลดการการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ โดยเราเชื่อว่าผู้ใช้งานรถยนต์ต่าง ๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาการขับขี่ด้วยน้ำมันเบนซินหรือดีเซลแต่เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป โดยรถยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริด (Plug in Hybrid) และรถยนต์ไฟฟ้า 100% (Pure Electric) ของวอลโว่ จะสามารถตอบโจทย์ทุกไลฟสไตล์และความต้องการในชีวิตประจำวันของผู้คนได้อย่างไร้ที่ติ