“กองทุนประกันชีวิต” มุ่งมั่นคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามกรมธรรม์ และพัฒนาองค์กรด้วยเทคโนโลยี

“กองทุนประกันชีวิต (กปช.)” ด้วยการบริหารจัดการของผู้จัดการกองทุนฯ คนใหม่ มุ่งมั่นนำ เทคโนโลยีทันสมัย เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ในกรมธรรม์ของประชาชน ที่ล่วงพ้นอายุความ 10 ปี ซึ่ง ไม่ได้ขอรับสิทธิเป็นจำนวนมาก ตลอดจนมุ่งพัฒนาองค์กร สร้างเครือข่ายและประสานขอความร่วมมือ ทุกองค์กรในการช่วยผลักดันสู่ความสำเร็จในการสร้างผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน พร้อม เสถียรภาพความมั่นคงของธุรกิจประกันชีวิตในระยะยาว


นายนพพล เบี้ยวไข่มุข ผู้จัดการกองทุนประกันชีวิตคนใหม่ ต่อจากนายจรัญ สอนสวัสดิ์ที่ครบวาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ได้เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีกรมธรรม์ที่ล่วง พ้นอายุความ (เกินกว่า 10 ปีนับจากวันที่มีสิทธิรับผลประโยชน์ตามกรมธรรม์) ที่ทุกบริษัทประกันชวี ิต นำส่งเข้ากองทุนประกันชีวิต ณ วันที่ 31 มี.ค 2565 เป็นเงินจำนวน 1,669 ล้านบาท ด้วยจำนวน 1.16 ล้านกรมธรรม์ โดยกองทุนฯ ได้จ่ายเงินคืนให้แก่ผู้มีสิทธิรับเงินไปแล้ว จำนวน 8,582 กรมธรรม์หรือ เพียง 0.74% ของจำนวนกรมธรรม์ทั้งหมด ด้วยจำนวนเงินจ่ายทั้งสิ้นจำนวน 48 ล้านบาท คิดเป็น 2.60% ของจำนวนเงินทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมาก เนื่องจากประชาชนผู้เอาประกันหรือ ผู้รับประโยชน์ไม่ทราบ หรือหลงลืมสิทธิประโยชน์ของตน

ดังนั้น กองทุนฯ โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ จึงถือเป็นภารกิจหลักสำคัญที่จะมุ่งมั่น เร่งรัดดูแลสิทธิประโยชน์ตามกรมธรรม์ดังกล่าวนี้ ให้ประชาชนตระหนักรู้ในสิทธิประโยชน์ของตนทั้ง ก่อนและหลังกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ ด้วยการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ต่อยอดสร้างเครือข่าย และ ประสานขอความร่วมมือกับทุกองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งสำนักงาน คปภ. สมาคม ประกันชีวิตไทย สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงิน (THAIFA) สมาคมนายหน้า ตลอดจนองค์กรอื่น ๆ ทั้งภาครัฐและองค์กรอิสระที่มีพลังขับเคลื่อนชุมชนในพื้นที่ รวมทั้งสื่อสารมวลชน ทุกแขนง โดยผ่านทุกช่องทาง Social Network ในปัจจุบัน และแน่นอนว่าหากทุกองคาพยพร่วมมือ ร่วมใจกันอย่างเต็มที่ สัดส่วนการจ่ายเงินฯ คืนจะมีอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยทางกองทุนฯ จะนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยให้ประชาชนผู้เอาประกันสามารถตรวจสอบสิทธิ ขอรับสิทธิ และรับ ผลประโยชน์คืนผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างเรียบง่ายและรวดเร็ว โดยโอนตรงเข้าบัญชีแบบไร้เงินสด

 นายนพพลได้กล่าวต่อไปว่า ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการกองทุนฯ นี้ ตนเองมีนโยบายเชิงกลยุทธ์ด้วยการยึดผู้เอาประกันภัยหรือเจ้าหนี้ เป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ให้ได้รับการ บริการ 4S คือ Simple (เรียบง่ายไม่ซับซ้อน) Speed (ความรวดเร็ว) Solution (มีทางออกในทุก ปัญหา) และ Satisfaction (ได้รับความพึงพอใจในทุกกรณี) พร้อมขับเคลื่อนกองทุนฯ บนพื้นฐานการ พัฒนา 3P ภายในองค์กรทั้ง Personnel (บุคลากร) Process (กระบวนการปฏิบัติงาน) และ Platform (ระบบรองรับ) ซึ่งแน่นอนว่าในยุคปัจจุบัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำเทคโนโลยีสมัยใหมเ่ ขา้ มาเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จ และที่สำคัญคือต้องก้าวเดินไปด้วยกันกับ กองทุนประกันวินาศภัย (กปว.) สอดคล้องกับแผนพัฒนาธุรกิจประกันภัย และยุทธศาสตร์กองทุน ประกันชีวิต

สำหรับการเตรียมการรองรับกรณีบริษัทประกันชีวิตถูกเพิกถอนใบอนุญาต และกองทุนฯ ต้องเข้าเป็นผู้ชำระบัญชีต่อไปนั้น กองทุนฯ ได้ศึกษาและจัดทำแผนรองรับเบื้องต้นในระดับหนึ่งแล้ว อย่างไร ก็ดี ในสถานการณ์ปัจจุบัน เชื่อมั่นว่าทุกบริษัทประกันชีวิตยังคงมีความมั่นคงแข็งแกร่งในระยะยาว โดย อัตราความพอเพียงของเงินกองทุน (%CAR) ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเกณฑ์ที่ทางการกำหนด(Supervisory CAR ที่ 140%) ค่อนข้างมาก

นอกจากนั้น ในเรื่องการลงทุนของกองทุนฯ ที่มีสินทรัพย์ลงทุนในปัจจุบันสูงถึงกว่า 9,000 ล้าน บาทนั้น กองทุนฯ จะศึกษาหาแนวทางเพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนให้สูงขึ้น เพื่อให้ เงินกองทุนเพิ่มพูนขึ้น และสามารถรองรับเหตุการณ์ในอนาคตได้อย่างเพียงพอ ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่ง ความปลอดภัยของเงินลงทุนทั้งหมด โดยต้องอยู่ภายใต้กรอบนโยบายและกฎเกณฑ์การลงทุนอย่าง เคร่งครัด ด้วยการควบคุมกำกับดูแลโดยอนุกรรมการลงทุน

นายนพพลได้กล่าวโดยสรุปด้วยความเชื่อมั่นในความรู้และประสบการณ์ที่ได้บริหารงานในธุรกิจประกันชีวิตมากว่า 30 ปีว่า ด้วยนโยบายเชิงกลยุทธ์ 4S Service ในการขับเคลื่อนกองทุนฯ ด้วย การพัฒนาระบบ 3P ภายในองค์กร พร้อมไปกับเทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นปัจจัยนำการขับเคลื่อน จะ นำไปสู่การดำเนินบทบาทและภารกิจกองทุนฯ สู่ความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองเจ้าหนี้ ซึ่งมีสทิ ธิ ได้รับชำระหนี้ที่เกิดจากการเอาประกันภัยอันเป็นภารกิจหลัก การประสานความร่วมมือกับทุกองค์กรที่ เกี่ยวข้อง การต่อยอดสร้างเครือข่ายและทำประชาสัมพันธ์เชิงรุก ตลอดจนการสร้างผลตอบแทนจาก การลงทุนที่สูงขึ้น ภายใต้การปฏิบัติที่เคร่งครัดตามขอบเขตของกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องด้วย ธรรมาภิบาลที่ดี ทั้งหมดนี้จะนำพากองทุนฯ สู่ความสำเร็จด้วยการสร้างผลประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ผู้เอาประกันภัย พร้อมไปกับการสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงในธุรกิจประกนัชีวิตไทย ดังเจตนารมณ์ ของการจัดตั้งกองทุนประกันชีวิต ตามพรบ.ประกันชีวิต อย่างแน่นอน