ซูบารุเปิดตัว ฟอเรสเตอร์ใหม่! แนะนำ 2 รุ่นย่อย i-L EyeSight และ i-S Eyesight ปลอดภัยเทคโนโลยีช่วยขับขี่ขั้นสูง EyeSight 4.0 พร้อมพาลุยด้วย X-MODE ของซูบารุ เซอร์ไพรซ์อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ GTS สำหรับ Forester รุ่นปัจจุบัน พร้อมส่งมอบทันที!

บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำรถเอสยูวีโฉมใหม่ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ พร้อมเทคโนโลยีช่วยขับขี่ล่าสุด EyeSight 4.0 ที่พัฒนาให้มุมมองรับภาพที่กว้างกว่าเดิมเกือบ 2 เท่า พร้อมเสริมฟังก์ชันควบคุมพวงมาลัย ทำให้ฟอเรสเตอร์ใหม่ มีคุณสมบัติของระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติระดับ 2 (ADAS-Advanced Driver-Assistance System) และเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยของซูบารุที่การันตีด้วยรางวัลมากมาย EyeSight 4.0 เปี่ยมด้วยสัญชาตญาณปกป้องความปลอดภัย ด้วยความแม่นยำจากกล้องสเตอริโอคู่หน้าที่ถูกอัพเกรดด้วยคุณสมบัติใหม่ที่ล้ำสมัย


นอกจากนี้ ฟอเรสเตอร์ ใหม่ ยังมีระบบ X-MODE ถูกคิดค้นและใช้ในรถซูบารุตั้งแต่ปี 2012 ที่ถูกออกแบบให้ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีหลักคือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical All-Wheel Drive) อย่างชาญฉลาด และด้วยระยะห่างจากพื้นดินที่สูงถึง 220 มิลลิเมตร ทำให้รถฟอเรสเตอร์ เป็นรถขับขี่รถได้อย่างปลอดภัยและง่ายดายยิ่งขึ้น สามารถไปได้ทุกที่อย่างแท้จริง
ขณะที่เทคโนโลยีหลักของซูบารุ และนวัตกรรมความปลอดภัยกว่า 100 รายการ ยังคงอยู่ ฟอเรสเตอร์ ใหม่ ยังได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นซึ่งยกระดับความปลอดภัย เผยจุดเด่นเรื่องความกว้างขวางของห้องโดยสาร และความสบายในการขับขี่ของฟอเรสเตอร์ ใหม่ เพราะความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ถูกคำนึงถึงเป็นอันดับแรกของการพัฒนา ฟอเรสเตอร์ใหม่จึงช่วยให้ผู้ขับมีทัศนวิสัยที่กว้างขึ้น เป็นรถเอสยูวีที่พาไปสู่การใช้ชีวิตในโลกที่กว้างขึ้นอย่างปลอดภัย และสะดวกสบาย


มร.ฟิลิป ลู ผู้บริหารฝ่ายขายและการตลาดระดับภูมิภาค บริษัท มอเตอร์ อิมเมจ ให้ข้อมูลว่า “ฟอเรสเตอร์ใหม่รุ่นนี้ เป็นโมเดลรุ่นที่ 2 ที่ผลิตที่โรงงานในประเทศไทย ตัน จง ซูบารุ ออโตโมทีฟ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เราภาคภูมิใจ และมั่นใจว่าคุณภาพเทียบเท่ารถฟอเรสเตอร์ที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น โดยฟอเรสเตอร์ใหม่นี้ที่ติดตั้งเทคโนโลยี EyeSight4.0 จะเป็น ดวงตาอัจฉริยะผู้ช่วยมองบนท้องถนน มืออัจฉริยะช่วยควบคุมพวงมาลัย และเท้าอัจฉริยะเมื่อต้องเบรกในยามที่คุณต้องการ”
“เรายังได้แนะนำรุ่น i-L Eyesight ซึ่งเป็นหนึ่งในรุ่นย่อยของ ฟอเรสเตอร์ ใหม่ ให้เป็นทางเลือกของลูกค้าอีกกลุ่มที่ต้องการเข้าถึงเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ล้ำสมัย และก้าวเข้าใกล้โลกแห่งยานยนต์ไร้คนขับขึ้นอีกขั้น โดยรุ่น i-L EyeSight จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมให้แก่ลูกค้า ที่เน้นเรื่องความปลอดภัย เน้นเรื่องขนาดของห้องโดยสารและความสะดวกสบาย เช่น ครอบครัวที่มีลูกเล็ก คุณพ่อคุณแม่ที่คำนึงถึงความปลอดภัยและมองหารถเอสยูวีคันแรกที่มีขนาดใหญ่และวางใจได้ โดยผู้บริโภคกลุ่มเหล่านี้จะได้เป็นเจ้าของเทคโนโลยีความปลอดภัยที่มีในรถยนต์กลุ่มพรีเมี่ยมในแบรนด์ยุโรปเช่นเดียวกัน

ปรับปรุงคุณสมบัติด้านความปลอดภัย

การอัพเกรดกล้องสเตอริโอคู่หน้าใหม่และคุณสมบัติใหม่ช่วยปกป้องความปลอดภัย เป็นหัวใจหลักของเทคโนโลยีช่วยขับขี่ขั้นสูง EyeSight 4.0

เทคโนโลยีช่วยขับขี่ขั้นสูง EyeSight 4.0
EyeSight 4.0 เป็นเทคโนโลยีที่เน้นการยกระดับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับ จากกล้องสเตอริโอคู่หน้าที่ได้รับการพัฒนาใหม่ และถูกติดตั้งไว้ใกล้ตำแหน่งของกระจกมองหลัง สามารถตรวจจับวัตถุได้ในวงกว้างและแม่นยำ มอบความอุ่นใจทุกครั้งที่ขับขี่
EyeSight 4.0 มีระบบความปลอดภัยมากถึง 9 ระบบ โดยรวม 3 ระบบใหม่ไว้ด้วย ดังนี้
– Autonomous Emergency Steering1 ระบบบังคับพวงมาลัยฉุกเฉินอัตโนมัติ ช่วยหักหลบจากรถหรือวัตถุที่อยู่ด้านหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการชน (ระบบทำงานที่ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
– Adaptive Cruise Control (ACC) with Lane Centering Function ระบบไปและหยุดตามคันหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบควบคุมรถให้อยู่กลางเลน ช่วยรักษาทิศทางของรถ ให้อยู่ตรงกลางเลนจราจร ทั้งถนนทางตรงและทางโค้ง เป็นฟังก์ชันที่เพิ่มเติมขึ้นมา เพื่อช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า พร้อมลดหรือเพิ่มความเร็วอัตโนมัติตามรถคันหน้า ให้ความสะดวก โดยเฉพาะการขับบนถนนไฮเวย์
– Lane Departure Warning include Lane Departure Prevention ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลนพร้อมระบบบังคับรถกลับเข้าเลน หากระบบตรวจจับว่ารถกำลังคร่อมเส้นแบ่งเลน จะดึงพวงมาลัยนำรถกลับเข้ากลางเลนโดยอัตโนมัติ (ระบบทำงานที่ความเร็วตั้งแต่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป)
ระบบ Pre-Collision Braking และ Adaptive Cruise Control ยังถูกพัฒนาให้ล้ำหน้าขึ้นอีกขั้น
EyeSight 4.0 มีระบบ Pre-Collision Braking ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ช่วยปกป้องความปลอดภัยได้ในสถานการณ์การขับขี่ ตามสี่แยกจราจร จุดที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ พัฒนากล้องสเตอริโอคู่หน้าให้มีระยะตรวจจับวัตถุกว้างกว่าเดิม (จากมุมซ้ายถึงมุมขวา) ถึงเกือบสองเท่า รวมทั้งจากมุมบนถึงมุมล่าง
จากมุมซ้ายถึงมุมขวา กล้องจะตรวจจับวัตถุหรือสิ่งกีดขวางได้กว้างและไกลขึ้น อันช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนได้มาก ตรวจจับวัตถุได้ไม่เพียงเฉพาะในเลนที่อยู่เท่านั้น ยังกว้างไปครอบคลุมเลนข้างๆด้วย ตัวอย่างเช่น รถในเลนสวน และคนข้ามถนนจากทั้งทิศทางซ้ายและทิศทางขวาของสี่แยกจราจร
Subaru Rear Vehicle Detection (SRVD)1 ระบบตรวจจับวัตถุด้านหลัง ระบบเรดาร์เซ็นเซอร์จะตรวจจับวัตถุที่อยู่ด้านหลังรถ และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับหากจะเปลี่ยนเลนบนถนนหรือถอยหลังในที่จอดรถ
High Beam Assist (HBA)1 ไฟหน้าอัจฉริยะปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ เป็นฟังก์ชันใหม่ที่ให้มาเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยที่ปลอดภัย โดยเฉพาะเวลากลางคืน หรือบนถนนที่มืด ลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ ทำงานคู่กับกล้องสเตอริโอคู่หน้า ไฟหน้าอัจฉริยะจะปรับไฟหน้าสูง-ต่ำให้อัตโนมัติ โดยไม่ต้องรอให้ผู้ขับสั่งการ และไม่ต้องกังวลว่าไฟหน้าจะรบกวนการขับขี่ของรถคันอื่น
ลักษณะการทำงานคือ เมื่อกล้องสเตอริโอคู่หน้าจับได้ว่าแสงบนถนนสว่างพอ เช่น มีแสงจากไฟถนน หรือเมื่อมีรถอยู่ข้างหน้าในเลนที่ตรงกัน และเลนด้านข้าง ไฟหน้าจะปรับเป็นไฟต่ำโดยอัตโนมัติ ระบบนี้มีประโยชน์มาก โดยเฉพาะการขับขี่บนถนนนอกเมืองในประเทศไทย เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา เพราะผู้ขับไม่ต้องกังวลเรื่องการปรับไฟหน้า และเห็นทางข้างหน้าได้ชัดขึ้น ทำให้การขับเวลากลางคืนมีความปลอดภัยมากขึ้น

X-MODE ที่แท้จริง พัฒนาใหม่ ให้ความปลอดภัย ความคล่องตัว และความสะดวกสบายที่ใช้งานง่าย
เพียงแค่กดปุ่ม ระบบ X-MODE จะช่วยให้ผู้ขับฝ่าเส้นทางขรุขระและท้าทาย และยิ่งทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร “Symmetrical All-Wheel Drive” ของซูบารุ ผู้ขับจะยิ่งมั่นใจ เอาชนะได้แม้เส้นทางสุดโหด หรือทางชันที่ลื่น ผู้ขับสามารถเลือกใช้โหมด Snow/Dirt และ Deep Snow/Mud เพื่อให้เหมาะสมกับเส้นทาง
ระบบ X-MODE จะอยู่ที่ Stand by เมื่อใช้ความเร็วรถเกินกว่า 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะทำงานกลับมาทำงานอัตโนมัติ เมื่อความเร็วรถลดลงต่ำกว่า 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนน สะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับระบบ X-MODE เดิม ที่ผู้ขับจะต้องมองปุ่มเพื่อปรับโหมดเอง