ทัพคอนเทนเนอร์ถึงสนามช้าง พร้อมลุย MotoGP OR Thailand Gradprix 2023 ระเบิดศึก 27- 29 ต.ค.66

ล่าสุดทัพคอนเทนเนอร์ โมโตจีพีถึงสนามช้างแล้ว โค้งสุดท้ายก่อนจัดการแข่งขัน สนามประเทศไทย ทุกฝ่ายเตรียมการเข้มข้นทั้งการจัดการองค์รวม อบรมมาร์แชล ทีมแพทย์ การจัดสถานที่ การต้อนรับนักท่องเที่ยวเต็มขั้น ด้านจังหวัดบุรีรัมย์เน้นนโยบาย Go Green หัวหอกสำคัญคือจิตอาสา GUเก็บ คนเล็กหัวใจใหญ่ ที่ทำงานเพื่อบ้านเกิดตัวเอง ชวนนักท่องเที่ยวคัดแยกขยะก่อนทิ้ง ดูแลสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการจัดมหกรรมกีฬาขนาดใหญ่ พร้อมชูธีม“ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม” ประดับประดาทางเข้าสนาม โชว์ภูมิปัญญาโบราณของไทยสู่สายตาชาวโลก

ประเทศไทย เตรียมเปิดบ้านต้อนรับ ศึกสองล้อที่เร็วที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โมโตจีพี รายการ โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023 ระหว่าง 27- 29 ตุลาคม 2566 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

ล่าสุดได้เผยภาพสุดอลังการของขบวนตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งอุปกรณ์ของทีมแข่ง MotoGP เข้าสู่สนาม เป็นภาพชุดที่เรียกความตื่นตาตื่นใจของแฟนความเร็ว เพราะใกล้วันแข่งขันไปทุกขณะ โดยขบวนรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่มาถึงนี้ เป็นคอนเทนเนอร์ล็อตแรก ที่การขนส่งอุปกรณ์สำคัญสำหรับการจัดการแข่งขัน เพื่อติดตั้งล่วงหน้า ส่วนคอนเทนเนอร์ของทีมแข่งต่างๆคาดว่าจะขนส่งเข้ามาในช่วงสัปดาห์หน้านี้

ทั้งนี้ ฝ่ายจัดการแข่งขันฯได้เร่งดำเนินการในช่วงโค้งสุดท้ายอย่างหนัก เพื่อรองรับศึกมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก MotoGP สนามประเทศไทยให้ออกมาครบสมบูรณ์ ยิ่งใหญ่พร้อมในทุกด้าน ทั้งพื้นที่จัดงาน, การจัดอบรมเจ้าหน้าที่มาร์แชล ทีมแพทย์และการบริการด้านต่างๆ สำหรับนักท่องเที่ยว พร้อมเผยแพร่การแข่งขันและสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามของประเทศไทย ไปกว่า 200 ประเทศ สู่ผู้ชมราว 800 ล้านคนทั่วโลก

นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการ จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จังหวัดบุรีรัมย์ได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ Anytime Anywhere In Buriram โดยได้มีการ จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปยังโรงแรม โฮมสเตย์ สถานบริการและร้านอาหาร เพื่อปิดป้าย QR CODE ให้นักท่องเที่ยวได้แสกน เพื่อแจ้งเรื่องร้องเรียน ส่วนโรงแรมที่พัก โฮมสเตย์ที่รับนักแข่ง นักท่องเที่ยว ขณะนี้มี 535 แห่ง จำนวนห้องพัก 7,700 ห้อง มีผู้จำนวนผู้เข้าพัก 15,400 คน ซึ่งโรงแรมในพื้นที่ อ.เมืองบุรีรัมย์ ขณะนี้มีอัตราการจองเต็ม 100% แล้ว ขณะที่ อ.นางรอง มีอัตราการจอง 80%, อ.สตึก มีอัตราการจอง 70% และอำเภออื่นๆมีอัตราการจองอยู่ระหว่าง 20-60% นอกจากนี้ยังมีโรงแรมในจังหวัดใกล้เคียง ที่พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยว ที่ต้องการมาชมการแข่งขันระดับโลกในครั้งนี้ ขณะที่ร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหาร มีผู้ให้บริการ รวม 4,844 แห่ง สามารถรองรับผู้บริโภคได้ถึง 206,000 คน

ส่วนภาพรวม มาตรการดูแล กำกับและควบคุม ได้มีการเชิญผู้ประกอบการ โรงแรม เข้าทำความเข้าใจและขอความร่วมมือในการให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างเป็นมาตรฐาน และพร้อมรับเรื่องร้องเรียนตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านการจัดการขยะ ในปีนี้ได้มีการจัดเตรียมทีม GUเก็บ ให้มากขึ้น คนเล็กหัวใจใหญ่ จิตอาสา ทำงานเพื่อบ้านเกิดตัวเอง เก็บขยะ ตามนโยบาย Go Green จะมีการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วม ลดโลกร้อน ด้วยการช่วยกันคัดแยกชนิดขยะต่างๆก่อนทิ้ง และนำขยะไปทิ้งอย่างถูกต้อง เพื่อความภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการจัดงานขนาดใหญ่

ด้านการแพทย์และสาธารณสุข มีความพร้อมทั้งทีมที่ปฏิบัติงานภายในสถานที่แข่งขัน นอกการแข่งขัน และในตัวเมือง มีการซักซ้อมขั้นตอนการรับผู้ป่วยที่มีปัญหาจากการแข่งขัน, ห้อง icu และการดูแลทางการแพทย์ ส่วนรอบนอกการแข่งขัน จะมีการจัดทีมแพทย์ รถพยาบาล มีการจัดเส้นทางการส่งต่อ ส่วนพื้นที่ในตัวเมืองจะมีการเปิดหน่วยบริการทางการแพทย์ 5 จุด ตลอด24 ชั่วโมง เพื่อให้บริการนักแข่งและนักท่องเที่ยว พร้อมจัดการอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานให้กับทีม สสจ. อบจ และพมจ. และหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบระบบ Tele Medicine รถพยาบาล วิทยุสื่อสาร การดำเนินการจริงของเเพทย์ที่อยู่ภายในการแข่งขัน และจะมีการประสานงานกับโรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูง ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินร้ายแรง

นอกจากนี้ ยังได้มีการกำหนดเส้นทางรับนักท่องเที่เข้าสู่งาน 3 เส้นทางคือ 1.จากสนามบิน ถึง หน้าบุรีรัมย์คาสเซิล (ชัทเทิลบัส 10 คัน) , 2.สถานีรถไฟ ถึง หน้าบุรีรัมย์คาสเซิล (รถตู้ 15 คัน) 3. สถานีขนส่ง บขส ถึง บุรีรัมย์คาสเซิล ประตู 2 และประตู 1 (รถบัส 5 คัน และรถตู้ 15 คัน)นอกจากนี้ยังมีการจัดจุดรับส่ง 2 เส้นทางคือ เส้นทาง วงเวียน ร.1 ถึง สี่แยกภัทรบพิตร และเส้นทางจากแยกกระสัง-สี่แยกภัทรบพิตร ซึ่งทั้ง 2 เส้นทางจะใช้รถ EV ที่ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า จุดละ 15 คัน

ในด้านการท่องเที่ยว ปีนี้การตกแต่งบริเวณทางเข้าสนาม ยิ่งใหญ่ไปด้วยการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น “การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม” ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรับชม, มีการนำรถชัตเติ้ลแต๋น จำนวน 100 คัน คอยให้บริการนักท่องเที่ยว, มีการจำหน่ายสินค้า OTOP ของดีของดัง บริเวณด้านหลังอัฒจันทร์สนามช้างอารีน่า และท่าอากาศยานบุรีรัมย์ รวมถึงจัดแสดงทางวัฒนธรรมถึง 11 ชุด เพื่อรับนักท่องเที่ยว และจัดทำ QR Code สำหรับแอดไลน์ เพื่อดูข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารและบริการสอบถามข้อมูล ขณะที่ฝ่ายอาสาสมัครแต่ละฝ่าย รวมกว่า 670 ชีวิต ก็พร้อมให้บริการนักแข่งและนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความประทับใจ