เอสโซ่และเอ็กซอนโมบิล มอบทุนการศึกษา ในโครงการ “เอสโซ่ ปันน้ำใจ พาน้องกลับห้องเรียนปีที่ 5”

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ณ ศาลาประชาคมอ่าวอุดม จังหวัดชลบุรี บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัทในเครือเอ็กซอนโมบิลในประเทศไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร พนักงานจากโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ศรีราชาสโมสรพนักงานเอสโซ่ ผู้บริหารสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ พันธมิตรทางธุรกิจ ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นโมบิล

นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี

ร่วมด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายอำเภอศรีราชา นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง ผู้บริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรีเขต ผู้บริหารสถานศึกษาและแขกผู้มีเกียรติ

ร่วมมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนยากจนพิเศษหรือนักเรียนทุนเสมอภาค กสศ. ที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จำนวน 426 ทุน ผ่านโครงการ “เอสโซ่ปันน้ำใจ พาน้องกลับห้องเรียน” ปีที่ 5  ให้แก่นักเรียนในโรงเรียนเครือข่ายกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เป็นจำนวนเงินกว่า 1.6 ล้านบาท

สุดา นิลวรสกุล ประธานกรรมการ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซอนโมบิล จำกัด


คุณสุดา นิลวรสกุล ประธานกรรมการ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซอนโมบิล จำกัด กล่าวว่า การศึกษาเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ การส่งเสริมด้านการศึกษาที่ถูกต้องเหมาะสม จะช่วยสร้างเสริมต้นทุนด้านทรัพยากรบุคคลที่มีศักยภาพ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศชาติของเราให้ก้าวหน้าต่อไป บริษัทเอสโซ่ฯ และบริษัทในเครือเอ็กซอนโมบิลในประเทศไทย ตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง

จึงได้ให้การสนับสนุนกิจกรรมด้านการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง โดยเราได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา จัดตั้งกองทุนเอสโซ่ สมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปีขึ้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 จนถึงปัจจุบัน เราได้มอบทุนการศึกษาไปกว่า 2,190 ทุน เป็นเงินประมาณ 17.8 ล้านบาท ให้แก่นิสิตนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในกลุ่มสาขาวิชา STEM (Science, Technology, Engineering and Mathematics) สาขาการบัญชี บริหารธุรกิจ การเงิน และภาษาธุรกิจ (จีน ญี่ปุ่น) จากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐทั่วประเทศ วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรัฐทั่วประเทศ”

นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์และคณิตศาสตร์  (STEM)  ในระดับอาชีวศึกษา โดยส่งเสริมจัดการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์เอสโซ่-อาชีวศึกษา มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนในระดับอาชีวศึกษา มีโอกาสคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ค้นคว้าและวิจัยผลงานทางด้านวิทยาศาสตร์ อันจะเป็นประโยชน์ต่อสังคม ที่ผ่านมาโครงการดังกล่าวมีหลายผลงานที่ได้รับรางวัลจากการประกวดในต่างประเทศ

อนุวัตร  รุ่งเรืองรัตนากุล กรรมการและผู้จัดการโรงกลั่นน้ำมัน  บริษัท เอสโซ่ฯ

พิธีมอบทุนการศึกษา “เอสโซ่ปันน้ำใจ พาน้องกลับห้องเรียน” ในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือร่วมใจและสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก โรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ศรีราชา โดย คุณอนุวัตร  รุ่งเรืองรัตนากุล กรรมการและผู้จัดการโรงกลั่นน้ำมัน  บริษัท เอสโซ่ฯ  กล่าวว่า  “โรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ศรีราชา เป็นองค์กรหนึ่งในพื้นที่เทศบาลนครแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เราตระหนักดี ถึงความสำคัญของการศึกษาสำหรับเยาวชนไทย

ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต จึงได้เริ่มจัดตั้งกองทุนการศึกษาโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ศรีราชา ขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 เพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่มีความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ในเขตพื้นที่อำเภอศรีราชา สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เราได้จัดสรรทุนการศึกษามาแล้วเป็นจำนวนถึง 5,546 ทุน ครอบคลุมทุกโรงเรียนของรัฐ ในเขตพื้นที่อำเภอศรีราชา ” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนขอไม่ว่าจะเป็นพนักงาน ผู้บริหารสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ทั่วประเทศ และเครือข่ายพันธมิตรต่างๆ นอกจากสนับสนุนเงินทุนการศึกษาแล้ว

ยังมีการจัดกิจกรรมสนุกๆ จากรถคาราวานวิทยาศาสตร์ โดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช) เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ผ่านชิ้นงานสื่อสัมผัสและ ซึ่งนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่าย และยังมีกิจกรรมสนุกสนานจากพี่ๆพนักงานของโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ศรีราชา ให้กับเด็กนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรม เพื่อให้วันนี้เป็นวันที่น่าจดจำ แสดงให้เห็นว่า การมอบทุนการศึกษาในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง แต่ยังเป็นการสร้างกำลังใจ และความมุ่งมั่นในการศึกษาเล่าเรียนให้กับเด็กๆ ทุกคนต่อไป

สำหรับ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) ได้ร่วมทำโครงการ “เอสโซ่ปันน้ำใจ พาน้องกลับห้องเรียน” กับ เอสโซ่มาตั้งแต่ปี 2562 โดยเอสโซ่ ถือเป็นบริษัทแรกในประเทศไทย ที่ใช้ระบบ iSEE ของ กสศ.เพื่อชี้เป้านักเรียนยากจนพิเศษในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม ร่วมบริจาคเพื่อเป็นทุนการศึกษา และยังสามารถใช้ระบบดังกล่าว ประเมินผลการช่วยเหลือเมื่อครบ 1 ปีการศึกษา จากข้อมูล เช่น ผลการเรียน อัตราการมาเรียน สุขภาพน้ำหนักส่วนสูง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและมอบโอกาสให้เยาวชนสามารถพัฒนาศักยภาพของตนต่อไป โดยทางเอสโซ่ได้เริ่มโครงการ “เอสโซ่ปันน้ำใจ พาน้องกลับห้องเรียน” ในพื้นที่ จ.เพชรบุรี จ.น่าน จ.นครนายก จ.จันทบุรี และ จ.ขอนแก่น

รวมถึงในพื้นที่ จ.ชลบุรี ตามลำดับ โดยภารกิจของ กสศ. ที่ทำมาตลอด คือป้องกันไม่ให้เด็กเยาวชนผู้ด้อยโอกาสหลุดจากระบบการศึกษา อย่างน้อยต้องจบการศึกษาภาคบังคับ อีกส่วนหนึ่งคือสนับสนุนให้เยาวชนกลุ่มนี้ได้รับการศึกษาในระดับที่สูงที่สุด ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในความร่วมมือระหว่าง กสศ. บริษัทเอสโซ่และบริษัทในเครือ ในครั้งนี้ นับเป็นเครือข่าย “ALL FOR EDUCATION ร่วมสร้างหลักประกันโอกาสทางการศึกษา” ซึ่งจะเป็นประตูสำคัญในการเปิดโอกาสให้ภาคส่วนอื่นๆ ในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และประชาชน ที่หวังอยากเห็นเด็กเยาวชนทุกคน

ไม่ว่าจะเกิดมาในครอบครัวและพื้นที่แตกต่างกันเพียงใด ล้วนได้รับโอกาสที่เสมอภาคด้านการศึกษาเพื่อการพัฒนาตนเองและสร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของตนเอง ครอบครัว และเพื่อการพัฒนาประเทศไทยให้สามารถออกจากกับดักความยากจนข้ามชั่วคนได้อย่างยั่งยืน และเป็นตัวอย่างของการมีส่วนร่วมในการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และสร้างโอกาสให้กับเด็กทุกคนได้เข้าถึงการเรียนรู้เหมาะสมตามช่วงวัย โดยโครงการที่เติมเต็มโอกาสทางการศึกษาให้กับนักเรียนทุนเสมอภาค กสศ. ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นับว่ามีคุณค่าอย่างมากที่มาร่วมกันส่งต่อโอกาสให้กับเด็ก ๆ

นอกจากนี้  บริษัท เอสโซ่ฯ และบริษัทในเครือเอ็กซอนโมบิลในประเทศไทย ยังได้มอบเงินรวมทั้งสิ้นจำนวน 373,210 บาท สนับสนุนการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา (2 แสนบาท) และสภากาชาดไทย (173,210 บาท ซึ่งได้จากการนำคะแนนสะสมแลกเปลี่ยนเป็นเงินบริจาคของสมาชิกเอสโซ่ สไมล์ส)

ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พนักงานเอสโซ่และเอ็กซอนโมบิล ยังได้ไปร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสาที่โรงเรียนวัดแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี  ปรับปรุงทาสีลานกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ตามหลักการพัฒนาสมอง (BBL) พร้อมกับนำเงินรายได้จากกิจกรรมต่างๆ ของสโมสรฯ

รวมทั้งที่ได้รับการสนับสนุนจาก ผู้บริหารสถานีบริการเอสโซ่ และพันธมิตรทางธุรกิจ มามอบเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนวัดแหลมฉบัง อีก 45 ทุน เป็นเงิน 90,000 บาท

และสนับสนุนการปรับปรุงหลังคาและบันไดทางขึ้นห้องสมุด มอบรอยยิ้มแก่นักเรียนผ่านไอศกรีม ขนม และตุ๊กตา และมอบ Wheel Chair จำนวน 2 ตัว รวมมูลค่าทั้งสิ้น 176,000 บาท

ดร.ทวีศักดิ์ บรรลือสินธุ์ กรรมการบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท เอ็กซอนโมบิล จำกัด กล่าวว่า “เพราะเราใส่ใจและตระหนักดี ถึงความสำคัญของการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนในพื้นที่ที่เราดำเนินธุรกิจอยู่ ตลอดห้าทศวรรษที่ผ่านมา โรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ศรีราชาได้สนับสนุนชุมชนรอบโรงกลั่นมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้าน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับสตรีในชุมชน การศึกษา และสุขภาพ เราเห็นว่าโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา

สภากาชาดไทย อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นโรงพยาบาลที่เก่าแก่แห่งหนึ่งในประเทศไทย และเป็นส่วนสำคัญในการดูแลรักษาสุขภาพของผู้คนในชุมชน ทางบริษัทได้ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของโรงพยาบาลด้วยดีมาโดยตลอด

ครั้งนี้ เอสโซ่ และเอ็กซอนโมบิลในประเทศไทย ร่วมกับ สโมสรพนักงานเอสโซ่ และพนักงาน ผู้บริหารสถานีบริการเอสโซ่ และพันธมิตรทางธุรกิจ และสมาชิกบัตรเอสโซ่สไมล์ส ได้มอบเงิน สนับสนุนการจัดซื้อครุภัณฑ์ เพื่อการจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา และสภากาชาดไทย รวมการสนับสนุนทั้งสิ้น 3.7 แสนบาท

นอกจากนี้ สโมสรพนักงานเอสโซ่และพนักงาน ยังได้จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อระดมทุน อาทิ การจัดการประมูลสินค้า การจัดขายอาหาร และของใช้  โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากพนักงานและบริษัทห้างร้านรอบๆ สำนักงาน เราหวังว่า การจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ในครั้งนี้ จะช่วยให้สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย เพิ่มศักยภาพในการให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และขอส่งกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลในการทำงานเพื่อช่วยเหลือและดูแลชุมชนใน อ. ศรีราชาและอำเภอใกล้เคียงต่อไป