เปิดไฮไลท์รถเด่น BMW ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39

บีเอ็มดับเบิลยู M4 Competition M xDrive Coupé ‘50 Jahre M Edition’
ราคาจำหน่าย: 10,499,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

เฉลิมฉลองการครบรอบ 50 ปีของบีเอ็มดับเบิลยู M ด้วยการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู M4 Competition M xDrive Coupé ‘50 Jahre M Edition’ รุ่นพิเศษสุด ผสมผสานวิศวกรรมชั้นสูง การขับขี่เหนือชั้น และตำนานมอเตอร์สปอร์ตไว้ด้วยกัน มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน M xDrive ในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู M4 เป็นครั้งแรก โดยมีจำหน่ายในประเทศไทยในจำนวนจำกัดเพียง 5 คันเท่านั้น
ภายนอกของบีเอ็มดับเบิลยู M4 Competition M xDrive Coupé โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่ทรงพลังสไตล์สปอร์ตหรูหรา โลโก้ครบรอบ 50 ปี บีเอ็มดับเบิลยู M ถูกติดไว้เหนือกระจังหน้าทรงไตคู่ บ่งบอกถึงความหลงใหลในการแข่งรถและประวัติศาสตร์ของบีเอ็มดับเบิลยู M สะกดทุกสายตาด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่แนวตั้งขนาดใหญ่ตัดกับซี่แนวนอนที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู M สอดรับกับซุ้มล้อที่ออกแบบมาอย่างทรงพลัง พร้อมช่องระบายอากาศด้านข้างสไตล์ M กาบข้างที่เชื่อมระหว่างกระโปรงหน้าและท้ายรถ เสริมการตกแต่งสปอร์ตโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่ง M Carbon ซึ่งประกอบไปด้วยหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์เสริมประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ ฝาครอบกระจก กาบข้าง และสปอยเลอร์หลังพร้อมท่อไอเสียแบบคู่ ส่วนไฟหน้า Adaptive LED พร้อมระบบ BMW Laserlight มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ภายในห้องโดยสารสะท้อนให้เห็นถึงการออกแบบอย่างไร้ที่ติตามหลักสรีรศาสตร์ ให้ผู้ขับขี่สามารถโฟกัสกับการขับขี่ได้อย่างเต็มที่ โลโก้ฉลองครบรอบ 50 ปี บีเอ็มดับเบิลยู M ยังถูกติดไว้บริเวณฝาปิดที่วางแก้ว พนักพิงศีรษะที่นั่ง และบริเวณประตู ฟังก์ชันต่าง ๆ เช่น เข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ M ระบบอุ่นเบาะสำหรับคนขับและผู้โดยสารเบาะหน้า เบาะนั่งตอนหน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่งเฉพาะฝั่งคนขับ ช่วยเพิ่มความสปอร์ตและความสะดวกสบายให้กับภายในห้องโดยสาร
ขุมพลังที่เป็นหัวใจหลักของบีเอ็มดับเบิลยู M4 Competition M xDrive Coupé ‘50 Jahre M Edition’ ผสานพลังจากเครื่องยนต์เบนซินรอบสูงอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ในตระกูล M เข้ากับสมรรถนะจากเทคโนโลยี M TwinPower Turbo ขนาด 3.0 ลิตร 6 สูบแถวเรียง มอบแรงบิดเต็มสูบสูงถึง 650 นิวตันเมตร ที่ 2,750 – 5,500 รอบต่อนาที ส่งพละกำลังเร้าใจที่ 375 กิโลวัตต์/510 แรงม้า ที่ 6,250 รอบต่อนาที พร้อมพุ่งทะยานจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในชั่วพริบตาที่ 3.5 วินาที มอบความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ M Steptronic Sport พร้อม Drivelogic ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่เกิดการสูญเสียกำลัง ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมผ่านคันเกียร์ M หรือแป้นเปลี่ยนเกียร์บริเวณพวงมาลัย
นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู M4 Competition M xDrive Coupé ยังได้รับการติดตั้งระบบ M Drive Professional เพื่อเสริมสัมผัสที่เร้าใจยิ่งขึ้นขณะขับขี่ในสนามแข่ง โดยมาพร้อมกับช่วงล่าง Adaptive M ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้อย่างอิสระระหว่างรูปแบบการขับขี่แบบสะดวกสบายหรือสไตล์สปอร์ตอันเร้าใจ ทั้งยังมาพร้อมระบบเฟืองท้าย Active M และล้ออัลลอย M Forged ลาย Double-spoke แบบสลับสี ขนาด 19/20 นิ้้ว

บีเอ็มดับเบิลยู 320d M Sport ใหม่
ราคาจำหน่าย: 2,699,000 บาท
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard คุ้มครองการบำรุงรักษาระยะเวลา 3 ปีหรือ 60,000 กม. )
บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport ใหม่
ราคาจำหน่าย: 2,949,000 บาท
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard คุ้มครองการบำรุงรักษาระยะเวลา 3 ปีหรือ 60,000 กม. )
บีเอ็มดับเบิลยู M340i xDrive ใหม่
ราคาจำหน่าย: 4,099,000 บาท
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard คุ้มครองการบำรุงรักษาระยะเวลา 3 ปีหรือ 60,000 กม. )

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดตัวยนตรกรรมสปอร์ตซีดานยอดนิยมกับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 ใหม่ ที่มาพร้อมกับการปรับปรุงดีไซน์และเทคโนโลยีใหม่ทั้งภายในและภายนอก ด้วยการออกแบบสไตล์สปอร์ตหรูหราและเน้นการควบคุมที่คล่องตัว บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 ใหม่ ได้สร้างมาตรฐานใหม่ล่าสุดให้กับความเพลิดเพลินในการขับขี่ในกลุ่มรถยนต์ระดับพรีเมียมขนาดกลาง
การปรับปรุงเฉพาะจุดบริเวณกันชนหน้าและกันชนหลังชูความโฉบเฉี่ยวแบบสปอร์ตให้โดดเด่นกว่าที่เคย ไฟหน้าและกระจังหน้าทรงไตคู่แบบใหม่ส่งให้ตัวรถสะดุดตายิ่งขึ้น ไฟหน้า Adaptive LED ถูกออกแบบให้เรียวลง ส่วนไฟส่องสว่างตอนกลางวันถูกออกแบบใหม่ในรูปทรงตัว L กลับหัว มอบรูปลักษณ์ภายนอกที่กลมกลืนและล้ำสมัยกว่าเดิม ภายนอกของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 ใหม่ ตกแต่งภายนอกด้วยวัสดุสีเงาดำ นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู M340i xDrive ยังมาพร้อมกับโคมไฟหน้าตกแต่งสีดำอีกด้วย
การออกแบบห้องโดยสารเน้นความทันสมัยและระบบดิจิทัลเป็นหัวใจสำคัญ โดยลดปุ่มสั่งงานต่าง ๆ เพื่อรองรับการควบคุมแบบสัมผัสและการสั่งงานด้วยเสียง หน้าจอแสดงข้อมูลขนาด 12.3 นิ้วหลังพวงมาลัยและหน้าจอควบคุมขนาด 14.9 นิ้ว ถูกผสานรวมกันเป็นจอแสดงผลดิจิทัลแบบโค้ง BMW Curved Display เพื่อสร้างการนำเสนอแบบดิจิทัลที่ให้ความคมชัดสูง ซอฟต์แวร์ที่มากับจอยังได้รับการอัปเกรดเป็นระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 ทั้งสามรุ่นย่อยมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบ Sport Steptronic และแป้นเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย รวมไปถึงคันเกียร์แบบใหม่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 ใหม่ มีมาให้เลือกใน 3 ขุมกำลัง ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 320d M Sport มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลทรงพลังเปี่ยมประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบต่อนาที ให้อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 6.9 วินาที ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินปลั๊กอินไฮบริดและเทคโนโลยี TwinPower Turbo ให้กำลังรวมสูงสุด 292 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุดที 420 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 5.8 วินาที และบีเอ็มดับเบิลยู M340i xDrive มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียงพร้อมเทคโนโลยี M TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 387 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,900 – 5,000 รอบต่อนาที สามารถพุ่งทะยานจากจุดหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 4.4 วินาที บีเอ็มดับเบิลยู 320d M Sport บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู M340i xDrive ยังให้ความเร็วสูงสุดที่ 235, 230, และ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตามลำดับ

ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) และระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรค (ABS) ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อช่วยควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 ใหม่ ยังมีระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ เซนเซอร์ควบคุมความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง และระบบเตือนสถานะของยางอีกด้วย ส่วนระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้างมีมาในเฉพาะบีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport นอกจากนี้ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 ใหม่ ยังสามารถใช้ประโยชน์จากบริการด้านดิจิทัลผ่านหน้าจอ BMW Live Cockpit Professional โดยสามารถตั้งค่าการแสดงผลต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ หรือเลือกช่องทางในการเชื่อมต่อสื่อสารและควบคุมได้ตามความถนัด ทั้งผ่านจอ Control Display ระบบสัมผัส ระบบการสั่งงานด้วยเสียง ระบบเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัดผ่านบริการ BMW ConnectedDrive และระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon ในรุ่น 330e M Sport และ M340i xDrive เสริมความพึงพอใจและความสะดวกสบายในห้องโดยสารยิ่งขึ้น

บีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport (First Edition)
ราคาจำหน่าย: 7,599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard
นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)
บีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport
ราคาจำหน่าย: 7,849,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard
นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)
บีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso
ราคาจำหน่าย: 8,599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard
นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)

บีเอ็มดับเบิลยู i7 ใหม่ มาในสามรุ่นย่อย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport (First Edition),
บีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso มอบสุดยอดประสบการณ์การขับขี่ ความสะดวกสบายในการเดินทางระยะไกล และเทคโนโลยีดิจิทัลล้ำสมัย ภายนอกตกแต่งด้วยวัสดุสีดําเงาและสปอยเลอร์หลังดีไซน์ M ตอกย้ำถึงคุณภาพระดับพรีเมียม ไฟหน้า Adaptive LED ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานพร้อมระบบปรับองศาเมื่อเข้าโค้ง ชุดไฟหน้าคริสตัลสวารอฟสกี้
‘Iconic Glow’ ประกอบด้วยไฟ LED จำนวน 22 ดวง ที่ส่องสว่างผ่านคริสตัลจากด้านหลัง และกระจังหน้าเรืองแสงเป็นประกาย มอบความงดงามตระการตาอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์รุ่นนี้
บีเอ็มดับเบิลยู i7 ใหม่ มาพร้อมขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว พละกำลังรวม 400 กิโลวัตต์/544 แรงม้า มอบอัตราเร่งอันทรงพลังด้วยแรงบิดสูงสุด 745 นิวตันเมตร ผสานกับเกียร์อัตโนมัติและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า BMW xDrive และเทคโนโลยี BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ 5 ซึ่งได้มอบการขับขี่อันน่าประทับใจไปแล้วในบีเอ็มดับเบิลยู iX มาพร้อมแบตเตอรี่แรงดันสูงที่ 105.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนผสานกับประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนส่งผลให้อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ 19.6-18.4 กิโลวัตต์-ชั่วโมง/100 กิโลเมตร มอบระยะทางขับเคลื่อนตามมาตรฐาน WLTP สูงสุดที่ 625 กิโลเมตร โดยสามารถโลดแล่นจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 4.7 วินาที และมอบความเร็วสูงสุดที่ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
บีเอ็มดับเบิลยู i7 ใหม่ มาพร้อมระบบช่วยการขับขี่รุ่น Professional ระบบควบคุุมความเร็วอัตโนมัติ และฟังก์ชัน Stop & Go ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ระบบปรับองศาของล้อหลังเพื่อการเข้าโค้งหรือเลี้ยว (Integral Active Steering) ทำให้การบังคับทิศทางง่ายยิ่งขึ้นขณะเข้าโค้งหรือจอดรถ ในขณะที่ระบบควบคุมช่วงล่าง Executive Drive Pro ที่ติดตั้งมาเป็นพิเศษในบีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายไร้ข้อจำกัดจึงช่วยให้การขับขี่คล่องตัวในทุกสถานการณ์ บีเอ็มดับเบิลยู i7 ยังอัดแน่นด้วยระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection) ระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง ระบบปกป้องคนเดินถนนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) นอกจากนี้ยังมีระบบ Anti-lock braking system (ABS) ป้องกันไม่ให้ล้อล็อกหรือหยุดหมุนขณะเบรกและ Brake Assist ยังช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ บีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso มาพร้อมกับล้ออัลลอย M aerodynamic ขนาด 21 นิ้ว ตกแต่งสี Titanium Bronze ขัดเงาลายสามมิติ ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport (First Edition) และบีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport มาพร้อมล้ออัลลอย M น้ำหนักเบา ขนาด 21 นิ้ว แบบสลับสี
ระบบ ‘My Modes’ รุ่นใหม่และระบบปฏิบัติการ BMW iDrive รุ่นล่าสุด ช่วยให้ผู้ขับขี่ปรับโหมดการขับขี่และบรรยากาศภายในรถได้ดังใจ ทั้งยังครบครันด้วยอุปกรณ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น จอแสดงผลดิจิทัลแบบโค้ง BMW Curved Display, แถบ BMW Interaction Bar, ระบบผู้ช่วย BMW Intelligent Personal Assistant ที่พัฒนาขึ้นอีกขั้น, หน้าจอ BMW Head-up Display และฟังก์ชัน Augmented View ที่ติดตั้งมาเป็นครั้งแรกบนจอแสดงข้อมูลหลังพวงมาลัย นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู i7 ยังมาพร้อมระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์ BMW IconicSounds Electric ทำให้ผู้โดยสารสัมผัสกับเสียงการเดินรถอันเป็นเอกลักษณ์จาก Hans Zimmer ซึ่งได้รับการออกแบบให้เป็นเอกลักษณ์สำหรับทุกโหมดการขับขี่ ทั้งสามรุ่นยังมาพร้อมวัสดุบุหลังคา M Alcantara ส่วนภายในตัวรถตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ถักด้วยวัสดุสีเงินแบบ M คอนโซลกลางสีดำเงาแบบ Piano Finish Black ระบบ BMW Live Cockpit Professional มอบความสะดวกสบายและแสดงข้อมูลรถยนต์โดยไม่รบกวนสมาธิระหว่างขับขี่บนท้องถนน
ระบบ BMW ConnectedDrive รวบรวมบริการดิจิทัลที่เชื่อมต่อรถยนต์กับโลกภายนอกได้อย่างชาญฉลาด หลังคากระจกพาโนรามา ‘Sky Lounge’ ที่ออกแบบขึ้นมาใหม่ยังให้ความรู้สึกโอ่อ่า กว้างขวางและสะดวกสบาย เมื่อก้าวเข้าไปยังห้องโดยสารด้านหลังของบีเอ็มดับเบิลยู i7 ใหม่ ผู้โดยสารจะได้พบกับระบบบันเทิงเหนือระดับ โดดเด่นด้วย BMW Theatre Screen หน้าจอแบบพาโนรามาขนาด 31.3 นิ้ว มาในรูปแบบ 32:9 และความละเอียดระดับ 8K ที่ทอดยาวลงมาจากหลังคา และแปลงโฉมเบาะที่นั่งตอนหลังให้เป็นโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ส่วนตัวสุดพิเศษ
นอกจากนี้ ภายในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู i7 ใหม่ ยังมาพร้อมระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง Bowers & Wilkins Diamond ที่มอบสุนทรียศาสตร์แห่งเสียงคุณภาพระดับสตูดิโอ ด้วยลำโพงที่ติดตั้งมาในตัวรถรวมทั้งหมดกว่า 39 ตัว ให้ประสิทธิภาพเสียงกว่า 1,965 วัตต์ พร้อมมอบประสบการณ์อย่างตราตรึง
ไม่ว่าจะนั่งอยู่ตำแหน่งใดภายในรถยนต์

บีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport ใหม่ (รุ่นประกอบในประเทศ)
ราคาจำหน่าย: 6,899,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม แพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard คุ้มครองการบำรุงรักษาระยะเวลา 3 ปีหรือ 60,000 กม.)
เปิดรับจองผ่านช่องทางออนไลน์ shop.bmw.co.th ได้ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป

บีเอ็มดับเบิลยูพร้อมกำหนดนิยามใหม่ของรถยนต์ในเซกเมนต์พรีเมียม ด้วยมาตรฐานใหม่ของการขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า ความยั่งยืน และระบบดิจิทัล รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport ใหม่ ปลั๊กอินไฮบริดสุดหรู รุ่นประกอบในประเทศ สร้างอีกย่างก้าวสำคัญของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 อันเลื่องชื่อ ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นซึ่งถูกสร้างสรรค์มาเพื่อมอบที่สุดแห่งความเพลิดเพลินในการขับขี่ ความสะดวกสบายของการขับขี่ทางไกล และประสบการณ์ดิจิทัลที่ล้ำสมัย

บีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport ใหม่ มาพร้อมไฟหน้า Adaptive LED พร้อมระบบปรับองศาเมื่อเข้าโค้ง ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน กระจังหน้าและชุดไฟหน้าคริสตัลสวารอฟสกี้ ‘Iconic Glow’ หรูหรา มอบเอฟเฟกต์ไฟระยิบระยับสวยงาม ด้านบนเป็นไฟรูปตัว ‘L’ ที่มาพร้อมรูปทรงเรขาคณิตแบบกระจกเป็นครั้งแรก เสริมให้ไฟท้ายดูโดดเด่นยิ่งขึ้น มาพร้อมล้ออัลลอย M aerodynamic ขนาด 20 นิ้ว แบบสลับสี ภายนอกตกแต่งด้วยวัสดุสีดําเงาและสปอยเลอร์หลังดีไซน์ M พร้อมชุดตกแต่ง M Sport ตอกย้ำถึงคุณภาพระดับพรีเมียม ระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปิดประตูรถและสตาร์ทเครื่องยนต์ได้โดยไม่ต้องสัมผัสกุญแจ นอกจากนี้ ระบบช่วยผ่อนแรงกระแทกขณะปิดประตูยังช่วยให้สามารถปิดประตูได้โดยอัตโนมัติอย่างนุ่มนวลและเงียบเชียบ

บีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ BMW TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 230 กิโลวัตต์/ 313 แรงม้า/ 5,000 – 6,500 รอบต่อนาที ส่งแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร/ 1,750 – 4,700 รอบต่อนาที กิโลวัตต์ชั่วโมง มอเตอร์ไฟฟ้าส่งกำลังสูงสุด 145 กิโลวัตต์ / 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ จะส่งกำลังรวมสูงสุด 360 กิโลวัตต์/ 489 แรงม้า และให้แรงบิดรวมสูงสุด 700 นิวตันเมตร พร้อมความจุพลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงที่ 22.1 โดยมีอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ 20.05 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม. และให้ระยะทางการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าสูงสุดที่ 85 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC สร้างความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร่งความเร็วจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายใน 4.8 วินาที

การตกแต่งภายในและอุปกรณ์ต่าง ๆ เสริมความสะดวกสบาย พร้อมสร้างบรรยากาศหรูหรา แถบ BMW Interaction Bar ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถยนต์ได้ดียิ่งขึ้น ผสานฟังก์ชันควบคุม ชุดไฟส่องสว่างสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร (Ambient Light) ซึ่งสามารถปรับการตกแต่งได้ตามต้องการ เบาะนั่งแบบมัลติฟังก์ชันครบครับทั้งสำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสารตอนหน้า และผู้โดยสารตอนหลัง มาพร้อมฟังก์ชันนวดผ่อนคลายสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหลัง รวมถึงเบาะนั่งตอนหลังแบบ Executive Lounge ระบบระบายอากาศสำหรับเบาะที่นั่ง และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 4 โซน เพิ่มการไหลเวียนอากาศในห้องโดยสาร บีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport ใหม่ มาพร้อมวัสดุบุหลังคา M Alcantara ส่วนภายในตัวรถตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ถักด้วยวัสดุสีเงินแบบ M คอนโซลกลางสีดำเงาแบบ Piano Finish Black

ระบบจอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลังประกอบด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 31.3 นิ้ว ความคมชัด 8K พร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง Bowers & Wilkins รีโมทควบคุมแบบบสัมผัสติดตั้งอยู่ที่แผงควบคุมบริเวณแผงประตู (BMW Touch Command) พร้อมทั้งม่านบังแสงด้านหลังจะปิดโดยอัตโนมัติเมื่อระบบจอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลังทำงาน ระบบ BMW Live Cockpit Professional ช่วยคำนวณเส้นทางที่รวดเร็วได้จากข้อมูลสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์

ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) และระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรค (ABS) ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist) เซ็นเซอร์ควบคุมความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) และระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง ติดตั้งมาอุปกรณ์มาตรฐาน ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ Parking Assistant Professional และระบบช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistant Professional มอบความอุ่นใจตลอดการเดินทางและทุกจุดหมายปลายทาง

บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 ใหม่
ราคาจำหน่าย: 4,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม แพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)

บีเอ็มดับเบิลยู iX มาพร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าใหม่ล่าสุด พร้อมเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติและการเชื่อมต่ออีกมากมาย เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานยิ่งขึ้น มาพร้อมเทคโนโลยี BMW eDrive และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบไฟฟ้าซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสมรรถนะการขับขี่ในระยะยาวไกลยิ่งขึ้นและอัตราเร่งที่ทรงพลังด้วยความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 6.1 วินาที ส่งพละกำลังรวมสูงสุด 240 กิโลวัตต์ / 326 แรงม้า ระบบ BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ห้านี้ยังทำงานพร้อมเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ล่าสุด มอบระยะทางขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าตามมาตรฐาน WLTP สูงสุดถึง 425 กิโลเมตร สร้างแรงบิดรวมได้สูงสุดถึง 630 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แรงดันสูงในบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 มีความจุพลังงานสุทธิ 76.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับการชาร์จแบบ DC ได้สูงสุด 150 กิโลวัตต์ จึงสามารถชาร์จจาก 0% ถึง 80% ได้ในเวลาเพียง 46 นาที

เทคโนโลยีแชสซีที่ใช้ในการพัฒนาบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 ประกอบด้วยเพลาหน้าแบบปีกนกคู่ เพลาหลังแบบ five-link ช่วงล่างแบบปรับระดับได้ และระบบพวงมาลัยไฟฟ้าที่ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถขณะขับขี่ (Servotronic) แปรผันตามการหมุนและความเร็ว มาพร้อมระบบช่วงล่างแบบถุงลมที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า ระบบปรับองศาของล้อหลังเพื่อการเข้าโค้งหรือเลี้ยว (Integral Active Steering) และเบรกแบบสปอร์ต
ล้อ aerodynamic ขนาด 22 นิ้ว แบบสลับสี ขัดเงาสามมิติ เสริมด้วยยางล้อลดเสียงรบกวนที่มีชั้นโฟมบริเวณพื้นผิวด้านในเพื่อลดการเกิดเสียงได้รับการติดตั้งเป็นมาตรฐาน

อีกหนึ่งเอกลักษณ์ใหม่ที่ไม่ซ้ำใครของบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 คือ ดีไซน์ภายนอกที่มีเส้นสายการออกแบบชัดเจนทรงพลัง แต่ยังคงความเรียบง่ายและบึกบึนสไตล์ SAV รายละเอียดขององค์ประกอบต่าง ๆ สื่อถึง
ความประณีตและความหรูหราล้ำยุค โดดเด่นสะดุดตาด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ที่เกือบปิดทึบ สะท้อนถึงนวัตกรรมการผลิตที่ล้ำสมัย ส่วนกล้องและเรดาร์เซนเซอร์ฝังอยู่ภายใต้พื้นผิวของกระจังหน้า โดดเด่นด้วยไฟหน้าและ
ไฟท้ายที่เรียวยาวที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู มือจับประตูที่เปิดด้วยการกดปุ่ม หน้าต่างไร้ขอบ และประตูท้าย
สอดประสานกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวตั้งแต่หน้ารถจรดท้ายรถโดยไม่มีช่องว่าง

การออกแบบภายในห้องโดยสารมุ่งนำเสนอแนวคิดของการใช้ชีวิตที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ พื้นที่กว้างขวางและเบาะที่นั่งแบบใหม่พร้อมพนักพิงศีรษะเสริมความหรูหรายิ่งขึ้น คอนโซลกลางมาในดีไซน์เฉียบไม่แพ้เฟอร์นิเจอร์หรู ปุ่มควบคุมระบบสัมผัสและระบบเปลี่ยนเกียร์แบบ rocker switch เติมเต็มความทันสมัยยิ่งขึ้นภายในห้องโดยสาร พร้อมเน้นย้ำถึงการออกแบบห้องโดยสารเพื่อผู้ขับขี่ด้วยจอ BMW Curved Display พวงมาลัยทรงหกเหลี่ยมและจอ Head-Up Display มาพร้อมตัวเลือกอุปกรณ์เสริมคุณภาพเสียงทรงพลังด้วยระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง Harman Kardon Surround Sound System ที่ฝังอยู่ในพนักพิงศีรษะ และระบบเสียงแบบ 4D ที่มีฟังก์ชั่นสั่นตามเสียงเบสในเบาะหน้า

บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive40 ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และนวัตกรรมหลากหลายเหนือกว่ารถยนต์
บีเอ็มดับเบิลยูทุกรุ่น พร้อมเซนเซอร์เจเนอเรชั่นใหม่ ซอฟต์แวร์ใหม่ และแพลตฟอร์มในการประมวลผลที่ทรงพลัง ใช้กล้อง 5 ตัว เรดาร์เซนเซอร์อีก 5 ตัว และอัลตร้าโซนิกเซนเซอร์ 12 ตัวในการตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบคัน ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go รวมถึงอีกสองระบบใหม่ล่าสุด เสริมการทำงานของระบบที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานอย่างระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus (Parking Assistant Plus) ประกอบด้วยกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround View Camera) แสดงภาพพื้นที่โดยรอบของรถให้เห็นแบบสามมิติผ่านระบบ Remote 3D พร้อมด้วยระบบ BMW Live Cockpit Professional และ BMW Intelligent Personal Assistant