Haha mala Restaurant เสิร์ฟอาหารอร่อย ส่งตรงจากเสฉวน แซ่บโดนใจ

ใครก็รู้จัก เสฉวน เมืองที่เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงแพนดามากที่สุดในโลก และคนไทยก็รู้จักเป็นอย่างดีกับ หลินปิง หลินฮุ้ย แพนด้าน้อยทูตสัมพันธไมตรี ระหว่างไทย- จีน

ร้านหม่าล่าเปิดใหม่ใหญ่กลางใจเมืองที่มีชื่อว่า HAHA MALA จึงได้จำลองแพนด้าน้อย น่ารักๆในท่าทางที่ซุกซนไว้ตามมุมต่างๆ และก็เป็นสัญลักษณ์ประจำร้าน ส่วนอีกอย่างหนึ่งที่มีชื่อเสียงของเมืองเสฉวนไม่แพ้กัน คืออาหารจีนระดับตำนาน หม่าล่า

ที่สำคัญ ร้าน HAHA MALA เป็นร้านอาหารจีนที่ขายดี มีสาขามากว่า 800 ในประเทศจีน ดังนั้น จึงรับประกันได้ถึงความอร่อย ความแซ่บของอาหารแนวหม่าล่าได้เป็นอย่างดี  แถมนักชิมคนไทยก็ไม่ต้องบินไปที่ประเทศจีน แค่มาที่ร้าน HAHA MALA ก็ได้ชิมความแซ่บจี๊ดจ๊าดเสมือนที่ประเทศจีนทุกอย่าง

ร้านอาหารHAHA MALA ตั้งอยู่ในซอยสมคิด เพลินจิต เป็นร้านใหม่แกะกล่องเพิ่งเปิดมาได้แค่ 3 สัปดาห์เท่านั้น เป็นร้านอาหารใหญ่ ที่มีเคล้าโครงของบ้านเก่าเป็นมนต์เสน่ห์ เรือนไม้สมัยรัชกาลที่ 5 ที่ใครเห็นเป็นต้องหลงรัก แถมมีบริเวณสวน สวยๆ ร่มรื่น และอาคารที่เชื่อมโยง เดินต่อกันได้ และในไม่ช้า จะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์สุดเท่ ครบวงจรแห่งหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ร้าน HAHA MALA ที่มีเจ้าของเป็นสาวชาวจีน นักธุรกิจรุ่นใหม่จากเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน 2 คน ก็คือ คุณไอวี่ และ คุณเดมี่  รวมถึง แม่ครัวมากประสบการณ์กว่า 24 ปี คุณทิงทิง ลี ซึ่งทั้ง 3 ต่างหลงรักเสน่ห์ความเป็นไทย ถึงขนาดบินข้ามฟ้ามาทำธุรกิจอาหารในเมืองไทย และเห็นความเป็นกันเองของคนไทยที่มักสอดแทรกอารมณ์ขัน จึงนำมาตั้งเป็นชื่อร้าน ฮ่าฮ่า หม่าล่า

คุณไอวี่  และ  คุณเดมี่  กล่าวว่า พวกเราจากเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน และได้เดินทางมาเมืองไทยเมื่อ 5 ปีก่อน มาตระเวนหาชิมร้านอาหารในสไตล์ร้านหม่าล่า แต่ก็ไม่พบร้านที่อร่อยโดนใจ จึงได้ตัดสินใจเปิดร้านหม่าล่า โดยเน้นความเป็นหม่าล่าแบบออริจินัลของเสฉวนแท้ๆ ในคนไทยได้ลิ้มลองในรสชาติของหม่าล่า และเรามั่นใจในอาหารหม่าล่าของเราว่าอร่อย ที่สำคัญในประเทศจีนมากกว่า 800 สาขา ซึ่งนักชิมคนไทยก็มักเสาะแสวงหาอาหารอร่อยอยู่แล้ว จึงเลือกเปิดในซอยสมคิด โดยมีระดับความเผ็ดให้เลือกตั้งแต่ เผ็ดมาก เผ็ดกลางและเผ็ดน้อย ไว้รองรับทุกความต้องการ

แต่ก่อนอื่นต้องขอแนะนำก่อนซึ่งหม่าล่า ที่หลายคนมักคิดว่าเป็นอาหารที่เสียบไม้ปิ้งอย่างเดียว แต่ที่จริงแล้ว ร้านอาหารหม่าล่าที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหารกินเล่น เสียบไม้ปิ้งย่าง หรืออาหารประเภท ต้ม ผัด แกง ทอด โดยเฉพาะไฮไลท์ของร้านนี้คือ อาหารที่เสิร์ฟในหม้อไฟสไตล์ชาบู

คุณไอวี่  และ  คุณเดมี่

แต่ก่อนอื่นมาเรียกน้ำย่อยแบบเบาๆ กับเมนูกินเล่นกันก่อน แนะนำ หม่าล่าเสียบไม้ปิ้งย่าง มีเมนูเนื้อวัว และเนื้อหมู สไลด์เสียบไม้ปิ้งย่าง โรยงาและหอมซอย ได้สัมผัสเนื้อนุ่มๆ ผสานความหอม ความเผ็ดร้อน รับรองไม้เดียวไม่พอ  ตามมาด้วย เห็ดเข็มทองทอดโรยพริกหม่าล่า เป็นเห็ดเข็มทองทอดสีขาวๆ แตกกิ่งก้านสาขาเหมือนปะการัง ที่มีความกรอบได้ใจ และแฝงไปด้วย ความหนึบ ผสานกับพริกหม่าล่า โดนใจเช่นกัน

หม่าล่าเสียบไม้ปิ้งย่าง

เห็ดเข็มทองทอดโรยพริกหม่าล่า

และต้องสั่ง หม่าล่าหม้อไฟ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เรียกได้ว่า ใครมาก็ต้องสั่ง โดยทางร้านมีน้ำซุป ให้เลือกสั่งถึง 4 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีสรรพคุณทางยา เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ หรือเรียกได้ว่า กินอาหารเป็นยา ก็ว่าได้ ที่สำคัญได้คัดสรรวัตถุดิบดีจากแหล่งชื่อดัง

หม่าล่าหม้อไฟ

คุณทิงทิง ลี

น้ำซุปที่ไม่เหมือนใคร ประกอบด้วย Golden Soup, Tibetan Tea Soup และ Tomato Soup และซุปตัวที่โดดเด่นไม่เหมือนใครคือ Mala Soup

Tibetan Tea Soup จะทำมาจากชาทิเบต ได้รสสัมผัสความเป็นชาแท้ๆ หอมละมุน หรือเรียกได้ว่าเป็นชุป เพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง ที่จะช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นและแข็งแรง

Mala Soup

Golden Soup มีรสชาติหอมหวานมัน กลมกล่อม สีเหลืองทองเหมือนชื่อ เพราะมีส่วนผสมของฟักทอง 100 เปอร์เซ็นต์ รวมถึง เครื่องเทศจีนสมุนไพรจีน พุทราจีน มะเดื่อ และยังมีส่วนผสมของกระดูกหมู ไก่ กระดูกปลา ผ่านการเคี่ยวกว่า 4 ชั่วโมงจนได้รสชาติดี ถูกใจนักชิม ซึ่งน้ำซุปชนิดนี้จะทำให้เลือดสูบฉีดได้ดี

Tomato Soup – Tibetan Tea Soup

Tomato Soup มีรสชาติหวานผสมผสานความเปรี้ยวจากมะเขือเทศ 100 เปอร์เซ็นต์ รสชาติดีมีความกลมกล่อม

Mala Soup เป็นน้ำซุปที่มีส่วนผสมของพริก 3 ชนิด ซึ่งเป็นพริกที่ดีที่สุดจากประเทศจีน และมีน้ำมันจีนเป็นส่วนผสม วิธีทำจะต้องใช้หม้อขนาดใหญ่ และเคี่ยวกว่า 3 ชั่วโมง ถึงจะได้ที่

Golden Soup

ดังนั้น ใครชอบแบบไหน ก็เลือกสั่งได้ตามชอบ และสามารถเลือกวัตถุดิบประเภทเนื้อ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ แฮม กุ้ง ไข่ ลูกชิ้น เต้าหู้  และผักมากมายเช่น แครอท ข้าวโพด เห็ดเข็มทอง มะเขือเทศ ลงไปลวกๆจิ้มๆในหม้อได้

 

เครื่องปรุงน้ำจิ้ม

นอกจากนี้ ยังตัวไฮไลท์ที่ขาดไม่ได้คือ น้ำจิ้มเสฉวน กินกับซุปหม่าล่ามีทั้ง แบบแห้งและแบบน้ำ ตามแบบฉบับของคนเสฉวนแท้ๆ โดยที่แบบแห้ง มีส่วนผสมของ พริกหม่าล่า ถั่วบด ผงปรุงรส คลุกเคล้าให้เข้ากัน ส่วนแบบน้ำ มีส่วนผสมของ กระเทียมสับ ต้นหอมซอย น้ำมันหอย น้ำมันงาและถั่วบด ทางร้านรับรองว่า ถูกปากคนไทย หรือถ้าหากใครอยากจะคิดสูตรขึ้นเองก็ได้ เพราะทางร้านได้เตรียมวัตถุดิบที่ใช้ทำน้ำจิ้มไว้หลากหลายชนิด

เมนูอาหารหม่าล่า เซ็ตกลางวัน เป็นแบบราคาเดียว กินได้ไม่อั้น มีเป็นเซ็ตตั้งแต่ 229 , 299 และ 599 บาท (กินภายใน 90 นาที) มีเมนูทุกอย่างเกี่ยวกับหม่าล่าทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ซุป ผัดแห้ง ปิ้งย่างเสียบไม้ ฯลฯ โดยเปิดให้บริการเฉพาะช่วงวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 11.00-15.00 น.เท่านั้น

หม่าล่าผัดแห้ง

ขณะที่ เมนูอลาคาร์ท เปิดให้บริการทั้งมื้อกลางวันและช่วงเย็น เมนูที่ห้ามพลาด เช่น ซุปหม่าล่า ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน ที่สามารถเลือก วัตถุดิบประเภทเนื้อสัตว์ต่างๆ ลูกชิ้น หรือผักต่างๆ เช่น แครอท แตงกว่า กระหล่ำดอก มะเขือเทศ นำลงไปต้มกับพริกหม่าล่า เสิร์ฟมาเป็นซุปถ้วยใหญ่ที่สามารถกินได้ถึง 3 คนเลยทีเดียว

ตามมาด้วย หม่าล่าผัดแห้ง ซิกเนเจอร์ของร้านก็จานใหญ่ไม่แพ้กัน  ซึ่งสามารถเลือก วัตถุดิบประเภทเนื้อ ลูกชิ้น หรือผักต่างๆ ให้เชฟนำไปผัดกับพริกหม่าล่า หรือเรียกว่า เป็นอาหารยำสไตล์คนจีน ก็แซ่บไปอีกแบบ

และไม่ควรลืมเครื่องดื่ม ที่มาช่วยเพิ่มรสชาติเติมความอร่อยให้กับการกินหม่าล่ามากยิ่งขึ้น เป็นเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของทางร้านเช่น ชาทิเบต หรือ น้ำบ๊วย ที่ดีทำให้ร่างกายสดชื่น หรือ น้ำสมุนไพร Wang Laoji  Iced Tea ในกระป๋องสีแดง ปิดท้ายด้วย ไอศกรีมคุณภาพพรีเมียมแบรนด์ เจลาโต้ มีรสช็อคโกแลต มะม่วง สตอเบอรี่โยเกิร์ต เชอร์เบทมะนาว ก็รับรองว่าโดนใจ

ได้กินหม่าล่าระดับตำนาน เพิ่มเติมคือ บรรยากาศในร้านก็แสนสบาย อากาศปลอดโปร่งถ่ายเทได้ง่าย และมีโต๊ะถึง13ตัว ตั้งอยู่ในมุมต่างๆของชั้น 1 และชั้น 2 และนอกจากอาหารอร่อย ยังมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ แถมยังมีเพลงจีนเปิดให้ฟังด้วยเบาๆ ซึ่งภายในร้านมีของประดับตกแต่ง ของสะสมสไตล์จีนที่ขนข้ามน้ำข้ามทะเลมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น กระติ๊กน้ำร้อน วิทยุ นาฬิกา รวมถึงไปเครื่องสวมหัว ของเจ้าสาวชาวจีน ในยุค 80 และยังประดับประดาด้วย โคมไฟป้ายภาษาจีนในหลายๆมุม ที่มีเรื่องราว ก็สามารถสอบถามจากพนักงานได้ เป็นการซึมซับวัฒนธรรมจีนอีกทางหนึ่ง

เข้าถึงอาหารอร่อยแบบเสฉวนจริงๆ

ร้านอาหาร HAHA MALA ตั้งอยู่ที่ 14/1 ซอยสมคิด ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน  กรุงเทพมหานคร 10330 เปิดตั้งแต่เวลา 11.00   –   21.00  น.สอบถามรายละเอียดหรือสำรองโต๊ะล่วงหน้าได้ 088 641 8303 หรือ คุณไอวี่  064 050 1530 เยี่ยมชมได้ที https://m.facebook.com/Hahamala-Restaurant-112319104681457